วันนี้ 1 กค.) เดินทางมาเดินเล่นญี่ปุ่นได้เรียบร้อย ถึงจะดูฉุกละหุกสักหน่อย แต่สนุกครับ หลังจากที่เดิมกำลังวางโปรเจคใหม่ในฐานะ แฟนพันธุ์แท้ พาเที่ยว “ตะลอนตามรอยการ์ตูน” และกำลังอยู่ในช่วงการเก็บข้อมูลลงพื้นที่
ผู้ใหญ่ทางสิงห์ ได้ทราบข่าว และได้ตกลงให้การสนับสนุนโครงการนี้ให้เกิดขึ้นจริง และนำไปสู่ช่วงของการทำ Feasibility Study ให้เป็นจริงขึ้นมา
นอกจากนั้นเพื่อให้เกิดประโยชน์มากขึ้น ทางสิงห์ได้แนะให้ ผมถือโอกาสทดลองเดินทางในวันแรกที่เปิดการเข้าญี่ปุ่นแบบไม่ต้องขอ วีซ่า japan no visa เพื่อเก็บเรื่องราวที่น่าจะเป็นประโยชน์มาฝาก แฟนๆ ที่รักญี่ปุ่นได้เตรียมตัวให้พร้อม ให้ถูกต้องก่อนไปด้วย อันนี้ผมว่าดีมากเลย ตอบตกลงเพราะไหนๆจะไปอยู่แล้ว ก็ทำให้ได้ประโยชน์กับคนอื่นด้วย
ขอขอบคุณทาง สิงห์ สปอนเซอร์ใจดีที่สนับสนุนให้ทดลองเดินทางเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ japan no visa มาบอกเล่าเพื่อนๆที่กำลังจะคิดเตรียมตัวไปญี่ปุ่นในรูปแบบใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 กค.นี้นะครับ
ภาพบันทึกการซื้อตั๋ว วันที่ 30 มิย. 2013 ก่อนออกเดินทางเช้าวันจันทร์ที่ 1 กค. ภายใต้สมมุติฐานว่า ถ้าเราจะเดินทางแบบปุบบับไปญี่ปุ่น แบบ japan no visa ใน 24 ชม. จะเป็นไปได้ไหม
ที่จริงก็ใจตุ้มๆ ต่อมๆ เหมือนกันครับ ระหว่างอยู่บนเครื่องก่อนถึงญี่ปุ่นก็ได้เจอคนไทยหลายคน ส่วนมากถึงแม้จะเปิดให้ไม่ต้องขอวีซ่ามาได้แล้ว แต่ทุกคนเลือกทำวีซ่าก่อนมาเพื่อความชัวร์เนื่องจากเป็นวันแรก และไม่อยากผิดพลาดไม่ต้องเดินทางกลับ เจอแต่ละคนแล้วก็รู้สึกว่าอาจไม่น่าง่าย
ก่อนมาเมื่อวานก็ทำการบ้านทำแผนการเดินทาง และจองที่พักไว้ให้เรียบร้อย เผื่อทาง ตม.สอบถามจะได้ดูดีมีหลักการ แต่เอาเข้าจริงแล้วให้ความรู้สึกเหมือนเราไปเที่ยวเชียงใหม่ หรือภูเก็ตเลย เพราะผ่าน ตม.ชิวมากๆ ผ่าน ตม.ฉลุยแบบไม่ได้ใช้เอกสารที่เตรียมเพิ่มไว้เลย แบบว่าสะดวกราบรื่นจนตกใจครับ ตม.ที่นี่พร้อมรับกับคนไทยในวันแรกที่อนุญาตให้ไม่ต้องขอวีซ่ามากๆ แค่กรอกเอกสารที่ได้บนเครื่องตามปกติเท่านั้นเอง และก็รอคิวยื่นตามปกติครับ ญี่ปุ่นไปง่ายนิดเดียวแล้วตอนนี้ ดีที่ตัดสินออกเดินทางเที่ยวแรกของวันนี้เลย เพราะอยากเป็นคนไทยคนแรกที่ได้เข้าญี่ปุ่นแบบไม่ต้องขอวีซ่า (ฮา)
ขอขอบคุณ สปอนเซอร์ใจดีอย่าง สิงห์ ที่สนับสนุนทริปนี้นะครับ เคสตัวอย่างสดๆจากทริปนี้ น่าจะช่วยทำให้หลายๆ คนที่สนใจอยากเดินทางไปญี่ปุ่นโดยไม่ต้องขอวีซ่า มีความมั่นใจในการเดินทางมากขึ้น และขอย้ำนะครับเอกสารที่เตรียมสำหรับใช้ประกอบ ไม่ว่าจะต้องยื่นหรือไม่ก็ควรทำไว้ครับ เผื่อถ้าเกิดเขาถามถึงก็จะทำให้ราบรื่นง่ายขึ้น
วีซ่าประเภทนี้ใช้ได้ 15 วันนะครับ ถ้าวางแผนเที่ยวดีดี 15 วันนี่คุ้มมากๆ
แต่ถ้าอยากเที่ยวนานเกินกว่านี้ ยังต้องไปแบบเดิม คือ ยื่นเรื่องขอวีซ่าเหมือนเดิมครับ
มือใหม่ หัดไปครั้งแรก อาจงงๆหน่อยกับเอกสารกรอกที่แจกบนเครื่องก่อนลง 2 ใบ คือ ของ ตม. และ ศุลกากร อย่าลืมเตรียมตัว ผมแนบไกด์ไว้ให้แล้วด้านล่าง
สิ่งที่สำคัญคือ 4 ข้อนี้ครับ ที่ะทำให้ทุกท่านผ่านฉลุย ตม.ญี่ปุ่นเข้าไปเที่ยวได้อย่างบันเทิงเริงใจ
1. ตั๋วเครื่องบินกลับ โดยเฉพาะที่ระบุวันกลับชัดเจน
2. จำนวนเงินที่ถือและได้กรอกแจ้งในในเอกสาร ตม. มีความสมน้ำสมเนื้อกับจำนวนวันที่อยู่ (มีบัตรเครดิตสำรองไว้ก็ดี เผื่อโชว์ให้เห็นกรณี ตม.เห็นว่าว่าเงินน้อย แต่เรามีบัตรเครดิตเสริมน้ำหนัก)
3. ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์อ้างอิงที่พักเรา ที่ชัดเจน ตรวจสอบได้ ยิ่งมีหลักฐานการจอง การจ่ายเงินยิ่งชัดเจนเป็นเรื่องเป็นราว
4. กำหนดการที่เราจะเดินทางในญี่ปุ่น ทำให้เขาเห็นการวางแผนการเดินทางที่ชัดเจน
ของ ผมแสดงแค่ 3 อย่างแรกครับ น่าจะชัดเจนพอแล้ว ตม.เลยไม่ขอ ข้อ 4
แต่สำหรับคนที่ไม่เคยมีประวัติเข้าญี่ปุ่นเลย 3 ข้อแรกสำคัญสุดครับ 3 ข้อแรกสำคัญสุดครับ
– ตั๋วเครื่องบินกลับ
– เงินที่ถือไปและได้กรอกแจ้งใน เอกสารผ่าน ศุลกากร.* ที่แจกให้กรอกบนเครื่องบินก่อนเข้าเมือง 5 วันเอาไปเกิน 2 หมื่นบาท(แลกแล้ว) ก็ฉลุยแล้วครับ
– หลักฐานการจองที่พัก รวมทั้งจดที่อยู่ เบอร์ของที่พัก อย่าลืมจดไว้ สำหรับไว้กรอกลงในเอกสารผ่าน ตม. ที่เค้าให้กรอกบนเครื่องก่อนลง
ข้อ 4 ยังแนะนำให้ทำอยู่ ในกรณีที่ 2 หรือ 3 เผื่อ ตม.ดูแล้ว ตม.อยากถามรายละเอียดเพิ่มเติม เอกสาร ข้อ 4 จะช่วยให้คุณตอบคำถามเค้าได้ทันทีโดยไม่ต้องเสียเวลาที่หน้า ตม. นานมาก
เอาเข้าจริงส่วนมากผ่านฉลุย ชิวๆครับ มั่นใจได้เลย ว่าทาง ตม.สนองตอบนโยบายนี้ที่ออกมาได้อย่างน่าประทับใจ
และทั้งหมดนี้คือประสบการณ์ หนึ่งในคนไทยกลุ่มแรกที่เดินทางเข้าญี่ปุ่นแบบไม่ขอวีซ่า ในวันที่ 1 กค. ซึ่งเป็นวันแรกที่เปิดให้คนไทยเดินทางเข้าประเทศด้วยวิธีนี้ได้ โดย TG 676 ของการบินไทย ไปญี่ปุ่น เที่ยวแรกตอนเช้า 7.35 น.และได้เดินทางเข้าญี่ปุ่นเรียบร้อยแล้วด้วยความสะดวกและประทับใจมากๆ
รายงานสดจาก อิเคบุคุโร่ ประเทศญี่ปุ่น ค่ำวันที่ 1 กค. และหวังว่าข้อมูลนี้จะได้แชร์เป็นประโยชน์กับนักเดินทางที่รักญี่ปุ่นทุกท่านครับ
เพิ่มเติมภาพ ให้คนที่คิดจะเดินทางอุ่นใจครับ
ตอนนี้ ผมเดินทางมาถึงที่ญี่ปุ่น และเข้าประเทศเรียบร้อยแล้ว ในโจทย์การเดินทางที่หลายๆคนน่าจะกำลังอยากทราบ และจะได้เตรียมตัวเตรียมพร้อมก่อนไป รอติดตามอ่านประสบการณ์การเดินทางและการเตรียมตัวเดินทางในรูปแบบใหม่ครับ มาถึงปุ๊บเขียนเลย..55